
เป็นผู้การสมัยนี้ ไม่ง่ายเลยครับพี่น้อง ยิ่งเป็นสมัยที่ผู้นำตำรวจชื่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ด้วยแล้ว การตระเวณตรวจ “โรงพัก” ถือเป็นหน้าที่หลักเลยทีเดียว แล้วไม่ใช้ว่าตรวจพอผ่านเฉย ๆ แต่ต้องตรวจกันแบบหาความผิดกันเลยนะขอรับ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด ซึ่งท่านพี่อู๋ ผบ.ตร.ของพวกเราย้ำนักย้ำหนาว่า จะต้องสะอาดกันแบบที่เรียกได้ว่าเป็นหน้าเป็นตา เป็นศักดิ์ศรีของหน่วยงาน

ว่าไปแล้ว วัฒนธรรมการตรวจโรงพักของพี่น้องตำรวจภูธร ดูจะไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไรนัก ตรงกันข้ามกับตำรวจนครบาล ที่อย่างว่าแหละครับ อยู่ในเมืองหลวง เจ้านายสารพัดยศ สารพัดตำแหน่ง แวะเวียนกันมาตรวจ แวะเวียนกันมากำชับแบบที่เรียกได้ว่า ห้วกระไดไม่แห้ง ซึ่งนัยหนึ่งก็ทำให้ตำรวจตื่นตัว คอยดูแลตัวเองดูแลโรงพักไม่ให้โดนผู้ใหญ่ตำหนิ แต่สำหรับชาวภูธรแล้ว ด้วยว่าระยะทางแต่ละแห่ง ห่างไกลกันมาก จะให้ผู้บังคับบัญชามาระห่ำตรวจเหมือนในนครบาล คงเป็นไปได้ยาก

แต่พี่น้องครับ สิ่งที่เป็นไปได้ยากเมื่อวันวาน มันเป็นไปได้แล้วครับในวันนี้ โดยเฉพาะตำรวจในจังหวัดสระแก้วของผม ซึ่งหลังจากที่ผมได้รับคำสั่งมาให้จัดการดูแลโรงพักในสังกัด ที่มีอยู่ถึง 16 แห่งให้ดี ให้พร้อมที่จะให้บริการ และที่สำคัญให้เป็นหน้าเป็นตา เป็นศักดิ์์ศรีของตำรวจ ผมก็ได้ดำเนินกลยุทธ์การตรวจ ทั้งนอกรูปแบบ ทั้งในรูปแบบ ทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน …เรียกได้ว่า ตรวจกันแบบไม่รู้เวร่ำเวลา ซึ่งผมก็โชคดี ได้พี่ ๆ รองผู้บังคับการทุกท่่าน ขานรับนโยบายดั่งว่า แล้วช่วยกันขยันออกตรวจโรงพัก จนได้ยินเสียงค่อนขอดเอาเหมือนกันว่าจะอะไรกันนักกันหนา

ก็ไม่อะไรกันนักหรอกครับพี่น้อง ทั้งหลายทั้งปวงนั่นก็คือ หนทางหนึ่งของการนำไปสู่คำว่า “มืออาชีพ” ซึ่งก็เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของท่าน ผบ.ตร. ท่านพี่อู๋ของพวกเรา ที่คาดหวังว่า มืออาชีพทำงานทุกอย่างต้องดูดี น่าเชื่อถือ ซี่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานที่ทำงานของพวกเรา ที่ต้องสะอาด เป็นระเบียบ เป็นหนึ่งในมาตรการของการเป็น “มืออาชีพ” นโยบายของท่านพี่อู๋ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมต้องมาตระเวณตรวจโรงพักในความรับผิดชอบ หลังจากที่ได้เดินทางไปประชุมบริหารที่ตำรวจภูธรภาค 2 จังหวัดชลบุรี มาแล้ว กว่าจะเดินทางกลับถึงจังหวัดสระแก้วบ้านหมู่เฮา ก็ซัดไปซะ 3 ชั่วโมงเศษ ระหว่างทางก็เลยถือโอกาสแวะเวียนตรวจตามโรงพักที่นั่งรถผ่านซะหน่อย….เอานี่แหละ สภ.เขาสิงโต ….ชื่อน่ากลัวอย่างนี้ อยู่ไกลปืนเที่ยงอย่างนี้ โรงพักก็เล็กจนน่าตกใจ แถมมีโรงพักใหม่ ที่โดน “โกง” จากใครก็ม่่ายรู้ ที่ทิ้งอนุสรณ์เป็นเสาเข็มโด่เด่ เป็นอนุสาวรีย์ให้ดูเจ็บใจเล่นๆ ผมแอบคิดในใจว่า โรงพักนี้แหละ เสร็จผมแน่ วันนี้ได้มีการออกอาวุธ เทศนายาว ให้ได้อายถึงความไม่เอาใจใส่ของผู้บังคับบัญชา หัวหน้าโรงพักเป็นแน่

แต่แล้ว กาลกลับตรงกันข้าม….โรงพักเล็ก ๆ ที่ชื่อ สภ.เขาสิงโต ถูกทะนุบำรุง ถูกจัดวาง อย่างมีระบบระเบียบ ถึงแม้ว่าสถานที่จะคับแคบ แต่ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องหับ อุปกรณ์สำนักงาน ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ อย่างตั้งใจ โดยที่ผมบอกได้ตามตรงว่า “คาดไม่ถึง”
ก้าวแรกที่ผมลงจากรถ นายร้อยตำรวจเวร เข้ามารายงานตัวด้วยสำเนียงชัดเจน ฉัดฉาน สมกับเป็นคนในเครื่องแบบที่ถูกฝึกถูกสอนมา ถามอะไรก็ตอบได้ นี่แหละหนา…มันส่อไปถึงผู้บังคับบัญชาของที่นี่ ที่มีภาวะความเป็น “ผู้นำ” โดยแท้ นั่นก็คือ นำลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา ไปสู่ทิศทางที่ผู้คนที่มีโอกาสมาสัมผัสแล้ว ต้องชื่นชม….ขอบคุณ พ.ต.ท.พัฒนจักร สังวรศีล สวญ. ที่ทำหน้าที่ “ผู้นำที่ดี” ได้อย่างไม่อายใคร
ผมเดินอมยิ้มขึ้นรถไป กับความภูมิใจ ที่โรงพักน้อย ๆ ตำรวจน้อย ๆ ได้ร่วมกันทำปรากฏการณ์เล็ก ๆ แต่ผมว่ามันยิ่งใหญ่ มันเป็นความยิ่งใหญ่ในใจของประชาชนผู้มาใช้บริการ แม้ว่า วัน ๆ จะมีผู้มาใช้บริการบนโรงพักแห่งนี้เพีียงน้อยนิด แต่หากขึ้นมาแล้ว ได้รับการดูแล การเอาใจใส่ประหนึ่งว่าเป็นลูกค้าชั้นดี ผมว่าอย่างนี้…เรามาถูกทางแล้วครับ ถูกทางในอันที่จะเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง สมดั่งเป้าหมายที่ท่านผบ.ตร.ท่านวาดหวังไว้ที่ว่า “เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ….ครับกระพ้ม
